ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center

สถาบันรับรองระบบการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตร  (ICAPS) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดหลักสูตรฝึกอบรมผู้ตรวจประเมินระบบการผลิต GAP และอินทรีย์ สำหรับข้าวและพืชอาหาร  ปี 2562 รุ่นที่ 1 (สำหรับผู้เกษียณอายุ)  ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2562 ณ ห้องแคทรียาควีนสิริกิตติ์ ชั้น 5 ตึกกล้วยไม้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้  อบรมฟรี...รับจำนวนจำกัดเพียง 50 คนเท่านั้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรัตน์ นักหล่อ ผู้ช่วยอธิการบดี ในฐานะ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันรับรองระบบการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า  ICAPS เป็นหน่วยตรวจประเมิน และหน่วยรับรองด้านระบบการผลิตสินค้าเกษตรและอาหาร มีความเป็นอิสระและมีความเป็นกลางในการตรวจประเมินและรับรองตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17020:2012 และ ISO/IEC 17065:2012  ภายใต้การรับรองระบบงานของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ซึ่งให้บริการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่ลูกค้าหน่วยงานต่างๆทั้งลูกค้ารายบุคคลและนิติบุคคล ปัจจุบันมีผู้เข้ารับบริการในปริมาณที่มากขึ้น แต่ทางสถาบันฯมีจำนวนบุคลากรอย่างจำกัด จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมและพัฒนาผู้ตรวจประเมินระบบการผลิตด้านพืช GAP และพืชอินทรีย์ ขึ้น เพื่อเป็นการรองรับปริมาณงานตรวจประเมินระบบการผลิตพืช GAP และพืชอินทรีย์ในอนาคต และพัฒนาผู้ตรวจประเมินระบบการผลิตฯ  ให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจประเมินระบบการผลิตฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาฐานข้อมูลที่ใช้ในตรวจประเมิน/รับรอง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถนำไปใช้ในการตรวจประเมินตามคู่มือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (พืชและข้าว) และคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (พืชและข้าว) ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อให้การรองรับแก่เกษตรกรต่อไป”

การฝึกอบรมในครั้งนี้ เป็นหลักสูตรที่เปิดให้กับผู้เกษียณอายุที่มีคุณสมบัติในการเป็นผู้ตรวจประเมิน คือ มีอายุ  60 ปี ขึ้นไป มีวุฒิการศึกษาระดับ ปว.ส.ขึ้นไป และมีประสบการณ์ทางด้านการเกษตร  ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ตลอดระยะเวลา 5 วัน โดยทีมวิทยากรมืออาชีพจาก กรมวิชาการเกษตร  กรมการข้าว และจากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ รับจำนวนจำกัดเพียง 50 คนเท่านั้น

ท่านที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันรับรองระบบการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0 5387 5685-6

ปรับปรุงข้อมูล : 25/2/2562 9:30:53     ที่มา : ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 1674

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวกิจกรรม ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

ศูนย์ Agri Inno ม.แม่โจ้ ร่วมผู้ประกอบการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ คว้า 3 รางวัลนานาชาติ ARCHIMEDES – 2025 กรุงมอสโกว์ ประเทศรัสเซีย
AgriINNOหรือ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัดกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมมือผู้ประกอบการทั้ง 3 บริษัท คือ บริษัท ออล อะเบ๊าท์ เอ็กซ์แทรกท์ จำกัด บริษัท เซนทอล จำกัด และ บริษัท เอเวอร์มอร์ จำกัด โดยมี  รศ.ดร.ดวงพร อมรเลิศพิศาล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศ ฯ เป็นที่ปรึกษาโครงการวิจัย ได้ร่วมกันพัฒนาและส่งผลงานนวัตกรรมจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้าประกวดในงาน  XXVII Moscow International Salon of Inventions and Innovation Technologies 2025>> ซึ่งมีผลงาน จาก 26 ประเทศ เป็นผลงานของรัสเซีย 340 นวัตกรรม และต่างชาติ 215 นวัตกรรม ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด  ณ กรุงมอสโกว์ ประเทศรัสเซีย  โดยทีมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้ารางวัลระดับนานาชาติ 3 รางวัล ได้แก่เหรียญทองจากผลงาน  Bioblend+: Probiotics and Prebiotics For Good Gut,  Good Life ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ไบโอเบลนด์พลัส ที่มีส่วนผสมของ โพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไทยและพรีไบโอติกส์จากจมูกข้าวและมัลเบอรี่ของไทย เพื่อดูแลลำไส้สู่คุณภาพชีวิตที่ดี ร่วมกับ บริษัท ออล อะเบ๊าท์ เอ็กซ์แทรกท์ จำกัด  เหรียญทองจากผลงาน CANCERA Pro PSK Plus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมหลักจากเห็ดทางยา 4 ชนิด ร่วมกับโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไทย แบรนด์ แคนเซอรา โปร พี เอส เค พลัส ร่วมกับ บริษัท เซนทอล จำกัด เหรียญเงินจากผลงาน KenKi Curcumin Gummy ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ เคนกิ เคอร์คูมิน กัมมี่ ที่มีส่วนผสมหลักจากสารสกัดขมิ้นและพริกไทยดำ ร่วมกับ บริษัท เอเวอร์มอร์ จำกัดรศ.ดร.ดวงพร อมรเลิศพิศาล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศ ฯ กล่าวว่า “ศูนย์ AgriINNO แม่โจ้ เป็น service provider ที่ยกระดับงานวิจัยสู่ระดับ global ตามเป้า มหาวิทยาลัยกลุ่ม 2 แบบชัดเจน Innovation & Entrepreneurs สิ่งที่ศูนย์ AgriINNO ดำเนินการคือการวิจัยในระดับเซลล์เพาะเลี้ยงของมนุษย์เพื่อประเมินฤทธิ์และกลไกการออกฤทธิ์หรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ประกอบการมาขอคำปรึกษา และเรายังได้ร่วมทุนหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ในการทำวิจัยในมนุษย์ เพื่อประเมินผลทางคลินิกต่อไป และการเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมการประกวดโดยสมาคมส่งเสริมนวัตกรรมและการประดิษฐ์ไทย ATIP Thailand ถือเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ในอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ / รายงาน 
8 เมษายน 2568     |      13177
ม.แม่โจ้มุ่งสู่สากลติดอันดับโลก World University Rankings - SCImago Institutions Rankings
           มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลกโดย Times Higher Education World University Rankings 2025  เป็นอันดับ 9 ของประเทศไทย โดยเป็นอันดับที่ 3 จาก 10 มหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพด้านการวิจัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2025  และเป็นอันดับที่ 9  ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับที่ 401-475 ของโลก ด้านเกษตรศาสตร์และป่าไม้  ซึ่งเป็นผลมาจากผลงานโดดเด่นจาก 5 ตัวชี้วัดในการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ การเรียนการสอน  การจัดการระบบนิเวศการวิจัย  คุณภาพการวิจัย รายได้จากผลงานลิขสิทธิ์นวัตกรรม และความเป็นสากลนานาชาติ          ล่าสุด SCImago Institutions Rankings (SIR) ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วโลก ประจำปี 2025 โดย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับ 13  จาก 15 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในไทย ปี 2025 และเป็นอันดับที่ 11 จาก 15 มหาวิทยาลัยไทยที่โดดเด่นด้าน Chemistry โดยปีนี้มีเพียง 33 มหาวิทยาลัยของไทยเท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับจาก SIR ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และการจัดอันดับในแต่ละครั้งจะบ่งบอกถึงความก้าวหน้า และการพัฒนาในกระบวนการ “การวิจัย” องค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งจะทำให้ต่อยอดไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับสังคมโลกได้อีกด้วย           นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยังติดอันดับที่ 12 ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับ top 401 – 600 ของโลก มหาวิทยาลัยที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) หรือ “THE Impact Rankings” ปี 2024  อีกทั้ง ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียว เป็นอันดับที่ 11 ของประเทศและอันดับที่ 143 ของโลก  และยังอยู่ในระดับ Top 10 ของมหาวิทยาลัยรัฐที่มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อมาโดยตลอด ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีนักศึกษาประมาณ 20,000 คน  มีการจัดการเรียนการสอน 15 คณะ 3 วิทยาลัย  ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ  และมีคณะที่ทำการเปิดสอนล่าสุด ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะสัตว-แพทยศาสตร์  และจากการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยสุขภาวะ Healthy University Rating  โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุน  การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้  ติด 1 ใน 10 ที่ได้ระดับ 4-5 ดาว “มหาวิทยาลัยสุขภาวะ Healthy University Rating 2023  ด้วยการประเมินจาก 42 ตัวชี้วัดด้านนโยบาย ระบบและโครงสร้างพื้นฐานการลดความเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยส่งเสริมสุขภาพ” ในระดับนานาชาติ            รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “ในปี 2025  Maejo Next Step มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมก้าวสู่ยุทธศาสตร์ Intelligence Well – being AgricultureIWA)  การเกษตรอัจฉริยะเพื่อสุขภาวะที่ดี  จะผสมผสาน Local Wisdom Innovation ก่อให้เกิดนวัตกรรมต่อยอด เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยในอนาคต และมีการจัดวิพากย์ศาสตร์ด้านการเกษตรหลักที่เป็นจุดเน้นในการพัฒนามหาวิทยาลัย ด้วยเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม บัณฑิตผู้ประกอบการ  การจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมสุขภาพสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างยั่งยืนต่อไป” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ //รายงาน
21 มีนาคม 2568     |      3334
คณะผลิตฯ  ม.แม่โจ้ อบรมเพาะเลี้ยง "ไข่ผำ" นำร่องส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์”
ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การเพาะเลี้ยงและการใช้ประโยชน์จากไข่ผำเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์" รุ่นที่ 1 โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการจากหลายจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคึกคัก เมื่อวันที่ วันที่ 8  มีนาคม 2568   ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้โครงการนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ด้านเทคนิคการเพาะเลี้ยงไข่ผำในระบบอินทรีย์ แนวทางการตลาด และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมสมัยใหม่ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้  ได้แก่ อาจารย์ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ และ ว่าที่ ร.ต. ณัฏฐ์ศรันย์ ศรีกิจ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  และ ผศ.ดร.จอมสุดา ดวงวงษา จากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์  พรหมวงศ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร ในฐานะผู้จัดโครงการฯ กล่าวว่า  “โครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านไข่ผำจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมไข่ผำให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งศึกษาตัวอย่างแนวทางการนำไข่ผำไปใช้เชิงพาณิชย์  ซึ่งด้วยศักยภาพของไข่ผำในฐานะโปรตีนทางเลือก และโอกาสในการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ   การอบรมเครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้ “ไข่ผำ” กลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมในอนาคต เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำและนักพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้  ที่สามารถนำไปพัฒนาการผลิตและการตลาด เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ไข่ผำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับสากล" สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลรายละเอียดการฝึกอบรมเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0 5387 5600 ในวันและเวลาทำการ
11 มีนาคม 2568     |      2369
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หนุนความร่วมมือภาคธุรกิจ พัฒนาเกษตรและปศุสัตว์ไทยด้วยนวัตกรรม
วันที่ 6 มีนาคม 2568 – มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สนับสนุนความร่วมมือระหว่าง บริษัท อนิ โปรดัก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท spin-off จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ บริษัท นิวทริเมด จำกัด ในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดและความต้องการของผู้บริโภค โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือทางวืชาการในครั้งนี้ โดยมี คุณพรพิมล บุญโคตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อนิ โปรดัก จำกัด และ คุณวิสูตร วิสุทธิไกรสีห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวทริเมด จำกัด เป็นผู้แทนลงนาม ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย ชั้น 5 สำนักงานมกาวิทยาลัยแม่โจ้ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการบูรณาการ เทคโนโลยีและงานวิจัยสู่ภาคเกษตรและปศุสัตว์ โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนานวัตกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมเกษตรไทย เช่น ผลิตภัณฑ์จุ่มเคลือบเต้านมโคจากธรรมชาติ. , ผลิตภัณฑ์ป้องกันแมลงในสัตว์เลี้ยง. และอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา. คาดว่า จะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิต และเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้
7 มีนาคม 2568     |      578