ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดงานแม่โจ้แฟร์ (Maejo Fair 2017)  มหกรรมนิทรรศการองค์ความรู้ MJU Showreal ครั้งแรกที่ผู้ประกอบการจะได้ซื้องานวิจัยไปต่อยอดเชิงพาณิชย์  พร้อม การประชุมวิชาการ ประจำปี 2560 และ งาน 40 ปี พืชผักแม่โจ้  "รวมพลคนตระกูลแตง" ระหว่างวันที่ 7-8 ธันวาคม 2560  ณ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน  มะโนชัย  รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “สำหรับงานแม่โจ้แฟร์ ในครั้งนี้ เป็นการผนวก 3 กิจกรรมหลักๆ ไว้ด้วยกัน  ได้แก่ การจัดประชุมวิชาการประจำปี 2560 ที่มีนักวิชาการมารวมตัวกันเพื่อนำเสนอผลงานมากมาย พร้อมทั้งมีเวทีเสวนาทางวิชาการและการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของพืชวงศ์แตง ส่วนที่สองคือ งาน 40 ปีพืชผักแม่โจ้ ครั้งยิ่งใหญ่ เตรียมเปิดแปลงโชว์พันธุ์แตงกว่า 20 บริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย เพื่อกระตุ้นด้านเมล็ดพันธุ์แตงของไทยให้กว้างขวาง  พร้อมเชิญคนพืชผักแม่โจ้คืนถิ่น และส่วนที่สามคือ มหกรรมนิทรรศการองค์ความรู้ MJU Showreal  ทั้งด้านการวิจัย  นวัตกรรม  บริการวิชาการ  เกษตรอินทรีย์แม่โจ้  โดยเปิดให้ผู้ประกอบการได้พบกับนักวิจัยโดยตรงและสามารถซื้องานวิจัยไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้  รวมถึงการจำหน่ายสินค้าจาก กาดแม่โจ้ 2477 และกลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์มากมาย  งานนี้จึงเป็นอีกงานสำคัญของชาวเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด”

สำหรับผลงานเด่นที่น่าสนใจ ของมหกรรมนิทรรศการองค์ความรู้ Maejo Fair 2017 อาทิ ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมขั้นสูงสำหรับไบโอรีแอคเตอร์จมชั่วคราวเพื่อการผลิตต้นพันธุ์พืชระดับอุตสาหกรรม, การใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน , การจัดการระบบน้ำโดยใช้ Application, ผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรไทยสำหรับปศุสัตว์และสัตว์น้ำ, นวัตกรรมอาหารสุขภาพและเครื่องสำอางจากทรัพยากรน้ำ, วัสดุเรียบแบบเซรามิกจากส่วนผสมของดินและน้ำยาง, เครื่องสับกิ่งไม้หยอดเหรียญ, การผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วแดงหลวง, วัสดุปลูกย่อยสลายได้  โดยจะจัดแสดงตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น. ณ บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ  ข้ามสี่  ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้  กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานประชุมวิชาการ ประจำปี 2560 เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ นักวิชาการ  คณาจารย์ นักวิจัย นิสิตนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา รวมถึงผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมประชุมและเสนอผลงานวิชาการในสาขาวิชาต่างๆ จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่สาขาเกษตรศาสตร์  สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสาขาวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรและสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์  รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่แนวทางการวิจัยและพัฒนาการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มีผู้สนใจจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ  จำนวน  138  เรื่อง และยังจัดให้มีการบรรยายพิเศษ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ เรื่อง  งานวิจัยกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดย รองศาสตราจารย์  ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล รองอธิการบดีฝ่ายระบบวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ในช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธันวาคม 2560 จะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “สถานการณ์พืชวงศ์แตงของประเทศไทย”, เรื่อง “สถานการณ์อุตสาหกรรมการแปรรูปแตงกวาดองในตลาดโลก”,  เรื่อง “เทคโนโลยีจีโนมิกส์เพื่อการปรับปรุงพันธุ์พืชตระกูลแตง”, เรื่อง “กระเทย : เพศเปลี่ยนโฉมหน้าลูกผสมแตงกวา”

ส่วนในวันที่ 8 ธันวาคม  2560 นอกจากการนำเสนอผลงานวิชาการตามกลุ่มสาขาวิชาต่างๆ แล้ว ยังมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง  “ฝ่ากับดัก สายพันธุ์ โรงเรือน วิธีการปลูก สู่ฟาร์มเมลอนไทยที่ยั่งยืน” ซึ่งกิจกรรมในช่วงบ่ายของทั้ง 2 วัน ท่านที่สนใจเข้ารับฟังการบรรยายสามารถเข้าร่วมงานได้..ฟรี  ณ ห้องข้าวหอมมะลิ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ”

สำหรับงาน 40 ปีพืชผักแม่โจ้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฉันทนา  วิชรัตน์ อาจารย์ประจำสาขาพืชผัก คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้  ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “นับจากปี 2520 ที่ได้มีการก่อตั้งสาขาพืชผักเป็นครั้ง จวบจนปัจจุบัน สาขาพืชผักแม่โจ้ได้ผลิตบัณฑิตคนพืชผัก กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ กว่า 1,500 คน สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างประโยชน์ต่อสังคมในมิติต่างๆ มากมาย  สำหรับงานครบรอบ 40 ปีพืชผักในครั้งนี้มหาวิทยาลัยได้ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), และบริษัทเอกชนกว่า 20 บริษัท จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สาขาพืชผักแม่โจ้  ให้ศิษย์เก่าได้กลับมาพบเจอกันและได้ตอบแทนสถาบัน รวมถึงการเผยแพร่องค์ความรู้สู่สังคมอีกด้วย

นอกเหนือจากการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับพืชวงศ์แตงแล้ว ยังมีงานมหกรรมแสดงพันธุ์แตงกวาและแตงร้าน  ซึ่งเป็นการแสดงพันธุ์แตงโดยบริษัทเมล็ดพันธุ์แตงกวา แตงร้าน ชื่อดังจากทั่วประเทศ จำนวน  22 บริษัทเอกชน และ 2 หน่วยงานราชการ ร่วมจัดแสดงปลูกสาธิต จำนวนกว่า 140 สายพันธุ์ เพื่อให้เกษตรกรและผู้ร่วมงานได้เห็นถึงความหลากหลายของพันธุ์พืช ตลอดจนนักปรับปรุงพันธุ์ของภาครัฐและเอกชนได้พัฒนาปรับปรุงพันธุ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค พร้อมมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ เมนูอาหารสุดสร้างสรรค์จากแตงกวา โดยทีมงานคณะพัฒนาการท่องเที่ยว  นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์อีกด้วย ณ แปลงสาขาพืชผัก คณะผลิตกรรมการเกษตร

ในส่วนของกิจกรรมศิษย์เก่าแม่โจ้คืนถึน จะจัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2560 ช่วงเช้าจะเป็นพิธีทำบุญทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับครูบาจารย์และศิษย์ที่ล่วงลับ ในช่วงบ่ายจะเป็นเวทีเสวนา      หัวข้อ “เรียน + สอนกันอย่างไร ในยุค Thai 4.0 ในสายตาศิษย์เก่าพืชผักแม่โจ้” และในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นกิจกรรมฉลอง 40 ปี พืชผัก และศิษย์เก่าพืชผักแม่โจ้คืนถิ่น  ณ ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่”

ขอเชิญท่านที่สนใจเข้าร่วมงาน Maejo Fair 2017  ได้ฟรี  ณ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้แม่โจ้  จ.เชียงใหม่  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร  โทรศัพท์ 0 5387 3410 – 1  

 

ปรับปรุงข้อมูล : 20/11/2560 16:28:00     ที่มา : ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 1286

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

ศูนย์ Agri Inno ม.แม่โจ้ ร่วมผู้ประกอบการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ คว้า 3 รางวัลนานาชาติ ARCHIMEDES – 2025 กรุงมอสโกว์ ประเทศรัสเซีย
AgriINNOหรือ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัดกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมมือผู้ประกอบการทั้ง 3 บริษัท คือ บริษัท ออล อะเบ๊าท์ เอ็กซ์แทรกท์ จำกัด บริษัท เซนทอล จำกัด และ บริษัท เอเวอร์มอร์ จำกัด โดยมี  รศ.ดร.ดวงพร อมรเลิศพิศาล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศ ฯ เป็นที่ปรึกษาโครงการวิจัย ได้ร่วมกันพัฒนาและส่งผลงานนวัตกรรมจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้าประกวดในงาน  XXVII Moscow International Salon of Inventions and Innovation Technologies 2025>> ซึ่งมีผลงาน จาก 26 ประเทศ เป็นผลงานของรัสเซีย 340 นวัตกรรม และต่างชาติ 215 นวัตกรรม ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด  ณ กรุงมอสโกว์ ประเทศรัสเซีย  โดยทีมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้ารางวัลระดับนานาชาติ 3 รางวัล ได้แก่เหรียญทองจากผลงาน  Bioblend+: Probiotics and Prebiotics For Good Gut,  Good Life ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ไบโอเบลนด์พลัส ที่มีส่วนผสมของ โพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไทยและพรีไบโอติกส์จากจมูกข้าวและมัลเบอรี่ของไทย เพื่อดูแลลำไส้สู่คุณภาพชีวิตที่ดี ร่วมกับ บริษัท ออล อะเบ๊าท์ เอ็กซ์แทรกท์ จำกัด  เหรียญทองจากผลงาน CANCERA Pro PSK Plus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมหลักจากเห็ดทางยา 4 ชนิด ร่วมกับโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไทย แบรนด์ แคนเซอรา โปร พี เอส เค พลัส ร่วมกับ บริษัท เซนทอล จำกัด เหรียญเงินจากผลงาน KenKi Curcumin Gummy ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ เคนกิ เคอร์คูมิน กัมมี่ ที่มีส่วนผสมหลักจากสารสกัดขมิ้นและพริกไทยดำ ร่วมกับ บริษัท เอเวอร์มอร์ จำกัดรศ.ดร.ดวงพร อมรเลิศพิศาล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศ ฯ กล่าวว่า “ศูนย์ AgriINNO แม่โจ้ เป็น service provider ที่ยกระดับงานวิจัยสู่ระดับ global ตามเป้า มหาวิทยาลัยกลุ่ม 2 แบบชัดเจน Innovation & Entrepreneurs สิ่งที่ศูนย์ AgriINNO ดำเนินการคือการวิจัยในระดับเซลล์เพาะเลี้ยงของมนุษย์เพื่อประเมินฤทธิ์และกลไกการออกฤทธิ์หรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ประกอบการมาขอคำปรึกษา และเรายังได้ร่วมทุนหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ในการทำวิจัยในมนุษย์ เพื่อประเมินผลทางคลินิกต่อไป และการเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมการประกวดโดยสมาคมส่งเสริมนวัตกรรมและการประดิษฐ์ไทย ATIP Thailand ถือเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ในอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ / รายงาน 
8 เมษายน 2568     |      13181
ม.แม่โจ้มุ่งสู่สากลติดอันดับโลก World University Rankings - SCImago Institutions Rankings
           มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลกโดย Times Higher Education World University Rankings 2025  เป็นอันดับ 9 ของประเทศไทย โดยเป็นอันดับที่ 3 จาก 10 มหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพด้านการวิจัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2025  และเป็นอันดับที่ 9  ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับที่ 401-475 ของโลก ด้านเกษตรศาสตร์และป่าไม้  ซึ่งเป็นผลมาจากผลงานโดดเด่นจาก 5 ตัวชี้วัดในการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ การเรียนการสอน  การจัดการระบบนิเวศการวิจัย  คุณภาพการวิจัย รายได้จากผลงานลิขสิทธิ์นวัตกรรม และความเป็นสากลนานาชาติ          ล่าสุด SCImago Institutions Rankings (SIR) ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วโลก ประจำปี 2025 โดย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับ 13  จาก 15 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในไทย ปี 2025 และเป็นอันดับที่ 11 จาก 15 มหาวิทยาลัยไทยที่โดดเด่นด้าน Chemistry โดยปีนี้มีเพียง 33 มหาวิทยาลัยของไทยเท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับจาก SIR ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และการจัดอันดับในแต่ละครั้งจะบ่งบอกถึงความก้าวหน้า และการพัฒนาในกระบวนการ “การวิจัย” องค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งจะทำให้ต่อยอดไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับสังคมโลกได้อีกด้วย           นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยังติดอันดับที่ 12 ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับ top 401 – 600 ของโลก มหาวิทยาลัยที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) หรือ “THE Impact Rankings” ปี 2024  อีกทั้ง ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียว เป็นอันดับที่ 11 ของประเทศและอันดับที่ 143 ของโลก  และยังอยู่ในระดับ Top 10 ของมหาวิทยาลัยรัฐที่มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อมาโดยตลอด ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีนักศึกษาประมาณ 20,000 คน  มีการจัดการเรียนการสอน 15 คณะ 3 วิทยาลัย  ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ  และมีคณะที่ทำการเปิดสอนล่าสุด ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะสัตว-แพทยศาสตร์  และจากการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยสุขภาวะ Healthy University Rating  โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุน  การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้  ติด 1 ใน 10 ที่ได้ระดับ 4-5 ดาว “มหาวิทยาลัยสุขภาวะ Healthy University Rating 2023  ด้วยการประเมินจาก 42 ตัวชี้วัดด้านนโยบาย ระบบและโครงสร้างพื้นฐานการลดความเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยส่งเสริมสุขภาพ” ในระดับนานาชาติ            รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “ในปี 2025  Maejo Next Step มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมก้าวสู่ยุทธศาสตร์ Intelligence Well – being AgricultureIWA)  การเกษตรอัจฉริยะเพื่อสุขภาวะที่ดี  จะผสมผสาน Local Wisdom Innovation ก่อให้เกิดนวัตกรรมต่อยอด เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยในอนาคต และมีการจัดวิพากย์ศาสตร์ด้านการเกษตรหลักที่เป็นจุดเน้นในการพัฒนามหาวิทยาลัย ด้วยเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม บัณฑิตผู้ประกอบการ  การจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมสุขภาพสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างยั่งยืนต่อไป” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ //รายงาน
21 มีนาคม 2568     |      3339
คณะผลิตฯ  ม.แม่โจ้ อบรมเพาะเลี้ยง "ไข่ผำ" นำร่องส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์”
ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การเพาะเลี้ยงและการใช้ประโยชน์จากไข่ผำเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์" รุ่นที่ 1 โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการจากหลายจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคึกคัก เมื่อวันที่ วันที่ 8  มีนาคม 2568   ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้โครงการนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ด้านเทคนิคการเพาะเลี้ยงไข่ผำในระบบอินทรีย์ แนวทางการตลาด และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมสมัยใหม่ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้  ได้แก่ อาจารย์ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ และ ว่าที่ ร.ต. ณัฏฐ์ศรันย์ ศรีกิจ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  และ ผศ.ดร.จอมสุดา ดวงวงษา จากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์  พรหมวงศ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร ในฐานะผู้จัดโครงการฯ กล่าวว่า  “โครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านไข่ผำจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมไข่ผำให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งศึกษาตัวอย่างแนวทางการนำไข่ผำไปใช้เชิงพาณิชย์  ซึ่งด้วยศักยภาพของไข่ผำในฐานะโปรตีนทางเลือก และโอกาสในการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ   การอบรมเครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้ “ไข่ผำ” กลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมในอนาคต เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำและนักพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้  ที่สามารถนำไปพัฒนาการผลิตและการตลาด เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ไข่ผำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับสากล" สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลรายละเอียดการฝึกอบรมเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0 5387 5600 ในวันและเวลาทำการ
11 มีนาคม 2568     |      2372
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หนุนความร่วมมือภาคธุรกิจ พัฒนาเกษตรและปศุสัตว์ไทยด้วยนวัตกรรม
วันที่ 6 มีนาคม 2568 – มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สนับสนุนความร่วมมือระหว่าง บริษัท อนิ โปรดัก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท spin-off จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ บริษัท นิวทริเมด จำกัด ในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดและความต้องการของผู้บริโภค โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือทางวืชาการในครั้งนี้ โดยมี คุณพรพิมล บุญโคตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อนิ โปรดัก จำกัด และ คุณวิสูตร วิสุทธิไกรสีห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวทริเมด จำกัด เป็นผู้แทนลงนาม ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย ชั้น 5 สำนักงานมกาวิทยาลัยแม่โจ้ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการบูรณาการ เทคโนโลยีและงานวิจัยสู่ภาคเกษตรและปศุสัตว์ โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนานวัตกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมเกษตรไทย เช่น ผลิตภัณฑ์จุ่มเคลือบเต้านมโคจากธรรมชาติ. , ผลิตภัณฑ์ป้องกันแมลงในสัตว์เลี้ยง. และอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา. คาดว่า จะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิต และเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้
7 มีนาคม 2568     |      588